Close

AAS Auto Service Co., Ltd.

Porsche | Bentley | Autoglym | Ulgo | Fenix

Search
Close this search box.

เอเอเอสฯ พาเจาะลึก FLYING SPUR MULLINER HYBRID อัครยนตรกรรมสปอร์ตซีดานเรือธงรุ่นล่าสุดของเบนท์ลีย์

(กรุงเทพฯ 29 สิงหาคม 2565) บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย พาเจาะลึกอัครยนตรกรรมสปอร์ตซีดานเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดของเบนท์ลีย์ FLYING SPUR MULLINER HYBRID (ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด) อัครยนตรกรรม 4 ประตูตัวท็อปที่สุดจากค่ายผู้ผลิตยนตรกรรมหรูแห่งเมืองผู้ดีที่มาพร้อมการตกแต่งภายนอกและภายในแบบเฉพาะตัวอันเป็นเอกลักษณ์ ประณีต และ งดงามจาก เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ โดย ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด ได้เปิดรับคำสั่งจองแล้วด้วยราคาเริ่มต้นที่ 19 ล้านบาท

ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด ถูกรังสรรค์และพัฒนาขึ้นโดย เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ด้วยการออกแบบ การวางระบบ และ การประกอบด้วยช่างฝีมือระดับปรมาจารย์ในสหราชอาณาจักร โดย ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด เปิดตัวในฐานะอัครยนตรกรรมรุ่นเรือธงของเบนท์ลีย์ที่พร้อมจะดึงดูดผู้ที่หลงใหลในรายละเอียด ความประณีต และ ความหรูหราขั้นสุดอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โด่ดเด่นของ เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ พร้อมความสามารถในการลดการปล่อยมลพิษโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพในการขับขี่ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินรุ่น V6 ทวินเทอร์โบชาร์จ ขนาดความจุกระบอกสูบ 2.9 ลิตร กับ มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 100 กิโลวัตต์ มอบพละกำลังสูงสุด 536 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร และ อัตราเร่งที่ตอบสนองอย่างง่ายดาย ควบคู่ไปกับความสามารถในการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ซึ่งทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลาเพียง 4.3 วินาที และ ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 285 กม./ชม.

E-motor มอเตอร์อิเล็กทรอนิกส์เทคโนโลยีล่าสุดติดตั้งอยู่ระหว่างเกียร์อัตโนมัติและเครื่องยนต์ ผลิตพละกำลังสูงสุด 134 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตรด้วยพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนขนาด 18.9 กิโลวัตต์ และ สามารถชาร์จไฟได้ 100 เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลาเพียง 2 ชั่วโมงครึ่ง (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับแต่ละภูมิภาค) พร้อมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แปลงพลังงานที่เก็บไว้จากแบตเตอรี่แรงสูงเพื่อจ่ายให้กับ E-motor หรือเสริมกับอุปกรณ์ประจุไฟฟ้าของรถยนต์ขนาด 12 วัตต์

สำหรับในโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจะสามารถลดเสียงรบกวนภายในห้องโดยสารได้กว่า 50% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์สันดาป ผู้โดยสารจึงสัมผัสได้ถึงความเป็นส่วนตัว และ ความเงียบสงบภายในห้องโดยสาร

โดยเมื่อเทียบกับอัครยนตรกรรมแบบอเนกประสงค์รุ่น เบนเทก้า ไฮบริด รุ่น ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด สามารถผลิตพละกำลังเพิ่มขึ้นกว่า 80 แรงม้า และ ถือเป็นอัครยนตรกรรมสปอร์ตซีดานที่ได้รับการรับรองว่ามีประสิทธิภาพในการประหยัดเชื้อเพลิงและมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำที่สุดในปัจจุบัน โดยมีค่าเฉลี่ยการปล่อย CO2 เพียง 75 กรัม ต่อ กิโลเมตร เท่านั้น ในขณะที่ เบนเทก้า ไฮบริด มีค่าเฉลี่ยการปล่อย CO2 อยู่ที่ 78 กรัม ต่อ กิโลเมตร

ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด ได้แสดงให้เห็นว่าระบบไฮบริดไม่ได้ลดทอนความหรูหราหรือสมรรถนะของเครื่องยนต์แต่ประการใด แต่ด้วยการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้าจึงทำให้สัมผัสได้ถึงความเงียบสงบในทุกรูปแบบของการขับขี่ และตัวรถยังได้รับการออกแบบให้เป็นอัครยนตรกรรมที่เหมาะสำหรับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ห้องโดยสารที่หรูหราแบบร่วมสมัยได้ยกระดับการผสมผสานองค์ประกอบหลักจากดีเอ็นเอของเบนท์ลีย์เข้ากับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และงานฝีมือที่ดีที่สุดของโลก ประกอบกับรายละเอียดที่พิถีพิถัน พื้นผิวแกะสลัก และลวดลายเส้นสายอันร่วมสมัยที่จะทำให้ผู้ครอบครองสัมผัสได้ถึงประสบการณ์สุดพิเศษไปตลอดเส้นทาง

การออกแบบภายนอกของ ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด ที่ถูกบรรจงรังสรรค์ขึ้นอย่างประณีตประกอบด้วยตัวเลือกเฉดสีมูลินเนอร์ที่มีให้เลือกสรรกว่า 16 เฉดสีมาตรฐาน ล้ออัลลอยด์แบบมูลินเนอร์ขนาด 22 นิ้วอันเป็นเอกลักษณ์ในเฉดสีเทาเคลือบเงา มาพร้อมตัวยึดโลโก้รูปตัว ‘B’ กึ่งกลางล้อจากมูลินเนอร์เพื่อให้โลโก้รูปตัว ‘B’ ตั้งตรงตลอดเวลาขณะรถเคลื่อนที่ กระจังหน้าออกแบบด้วยลวดลายเพชรแบบ 2 ชั้น (Double Diamond) และ กระจังหน้าด้านล่างแบบโครเมียมที่เข้ากันได้อย่างลงตัวกับช่องระบายอากาศด้านข้างที่ตกแต่งด้วยลวดลายเพชรแบบ 2 ชั้น และ ตัวอักษร ‘Mulliner’ พร้อมฝาครอบกระจกข้างเฉดสีเงินซาติน โดยมี เบนท์ลีย์ ฟลายอิ้ง บี มาสคอต (Bentley Flying ‘B’ Mascot) สัญลักษณ์ของเบนท์ลีย์ที่มีเฉพาะรุ่น ฟลายอิ้ง สเปอร์ เท่านั้น ติดตั้งบริเวณด้านหน้าของฝากระโปรง และ สามารถเรืองแสงพร้อมคุณสมบัติควบคุมการขึ้น-ลงจากภายในห้องโดยสารด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมเติมเต็มความสมบูรณ์แบบด้วยการตกแต่งฝาครอบปิดถังน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยโลโก้รูปตัว ‘B’

สำหรับภายในห้องโดยสารของ ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด ได้ถูกรังสรรค์ด้วยอักษร ‘Mulliner’ แบบเรืองแสงบริเวณกาบประตูและไฟต้อนรับแบบ LED ส่องสว่างลงด้านล่างเมื่อเปิดประตูห้องโดยสาร พร้อมการนำเสนอการผสมผสานของสามเฉดสีแบบสั่งทำพิเศษถึงแปดแบบจากมูลินเนอร์ และ คอลโซลหน้าตกแต่งด้วยไม้วีเนียร์แบบ Grand Black สลักด้วยตัวอักษร ‘Mulliner’ พร้อมสัมผัส Mood Lighting Specification ระบบไฟที่มอบหลากหลายเฉดสีภายในห้องโดยสาร ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการเพื่อเพิ่มบรรยากาศความสุนทรีภายในห้องโดยสาร พร้อมการตกแต่งอย่างหรูหราด้วยการเดินเส้นสีที่เน้นความเข้มของลายเส้นและการปักอักษร ‘Mulliner’ อันเป็นเอกลักษณ์บนเบาะโดยสาร

Mulliner Driving Specification ถูกติดตั้งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานโดยนำการเย็บลวดลายแบบเพชรซ้อนเพชร (Diamond-in-Diamond) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้ระยะเวลากว่า 18 เดือนในการพัฒนา โดยเพชรแต่ละเม็ดจะประกอบด้วยกว่า 712 ฝีเข็ม มาใช้ในการตกแต่งบนเบาะโดยสาร และ การตกแต่งด้วยการใช้หนังแบบ 3 มิติที่บริเวณประตูห้องโดยสารทั้ง 4 ประตู โดยลายเส้นของเบาะโดยสารแบบตัดกันจะเข้ากันได้ดีกับการเน้นลายเส้นที่ล้อมรอบห้องโดยสารจากบริเวณคอนโซลกลาง รอบแผงหน้าปัด และ บริเวณประตูห้องโดยสาร ซึ่งจะทำให้สัญลักษณ์ เบนท์ลีย์ บี แบบโครเมียมบริเวณประตูห้องโดยสารโดดเด่นยิ่งขึ้น

งานฝีมือแบบร่วมสมัยและความหรูหราที่สะกดทุกสายตาผสมผสานกับเทคนิคพิเศษรังสรรค์ลวดลายเสมือนเพชรบนคอนโซลกลาง และ คอนโซลหลัง ส่วนบริเวณตรงกลางแดชบอร์ดข้างช่องแอร์ตกแต่งด้วย นาฬิกา ‘Breitling for Mulliner’ แบบอนาล็อกหน้าปัดสีเงินสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่จะมีตกแต่งเฉพาะรุ่น ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด เท่านั้น

อีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของ ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด ยังคงเป็นแผงหน้าปัดแบบ LED พร้อมกราฟิกมูลินเนอร์แบบใหม่ที่มีสไตล์เฉพาะตัว ผนวกเข้ากับหน้าจอ Infotainment แบบหมุนได้ 3 ด้าน อย่าง Bentley Rotating Display อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งประกอบด้วยแผงลายไม้วีเนียร์แบบเรียบหรู หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว แบบอเนกประสงค์ และ มาตรวัดแบบอนาล็อก 3 ช่องสุดคลาสสิคที่แสดงผลของอุณหภูมิ เข็มทิศ และ นาฬิกา มาพร้อมกับคันเร่งแบบสปอร์ต พวงมาลัยแบบดูโอโทน 3 ก้านสไตล์สปอร์ตแบบปรับอุณหภูมิได้ และ ซันรูฟแบบพาโนรามาช่วยเพิ่มบรรยากาศความหรูหราภายในห้องโดยสาร

ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด ยังมอบความสะดวกสบายพร้อมความหรูหราภายในห้องโดยสารด้านหลังด้วยโต๊ะไม้วีเนียร์แบบพับจากมูลินเนอร์ที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า ติดตั้งบริเวณด้านหลังของเบาะโดยสารคู่หน้า โดยสามารถกางออกได้ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว และสามารถปรับระดับด้วยตัวเองเพื่อเผยให้เห็นพื้นผิวที่ตกแต่งด้วยหนังแท้ พร้อมช่องสำหรับวางปากกา โดยผู้โดยสารสามารถกดปุ่มค้างไว้เพื่อให้โต๊ะกลับสู่ตำแหน่งเดิมได้อย่างสวยงาม

สำหรับเทคโนโลยีภายในห้องโดยสาร ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด มอบการเชื่อมต่อสู่โลกแห่งดิจิทัลในทุกมิติด้วย Apple CarPlay พร้อมควบคุมระบบความบันเทิงด้านหลังด้วยรีโมทคอนโทรลแบบสัมผัสที่จะช่วยให้ผู้โดยสารสัมผัสได้ถึงสุนทรียภาพภายในห้องโดยสารจากชุดเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bentley Standard Audio System ขนาด 650 วัตต์ เครื่องขยายเสียง 11 ช่อง 10 ลำโพง พร้อมระบบช่วยเหลือในการขับขี่แบบ TOURING และ CITY SPECIFICATION

สำหรับออปชั่นเด่นของ ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด คือ ระบบความบันเทิงสำหรับห้องโดยสารด้านหลังรูปแบบใหม่ มอบสุดยอดประสบการณ์ความบันเทิงด้วยหน้าจอแบบสัมผัสความละเอียดสูง 1920 x 1080 พิกเซล ขนาด 10.1 นิ้ว จำนวน 2 จอ ติดตั้งบริเวณด้านหลังของเบาะโดยสารคู่หน้า ทำงานร่วมกับระบบเครื่องเสียง Naim for Bentley ระดับไฮเอนด์ ขนาด 2,200 วัตต์ ซึ่งถือเป็นแบรนด์เครื่องเสียงชั้นนำระดับโลกและ ถือเป็น Bentley’s Global Audio Partner ที่ได้มอบสุดยอดระบบความบันเทิงภายในห้องโดยสารของอัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์ โดยสามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์เคลื่อนที่ส่วนตัวด้วยเทคโนโลยีบลูทูธเพื่อเชื่อมคุณเข้าสู่โลกแห่งความบันเทิงตลอดการเดินทาง

ผู้ครอบครอง ฟลายอิ้ง สเปอร์ มูลินเนอร์ ไฮบริด จะได้รับซองใส่กุญแจหนังพร้อมกล่องกุญแจมูลินเนอร์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเข้ากับห้องโดยสารด้วยตัวเลือก 3 เฉดสีให้เลือกสรร โดยกุญแจทั้ง 2 ดอกจะถูกจัดเตรียมไว้ในกล่องอย่างสวยงาม

เอเอเอสฯ มอบข้อเสนอที่ดีที่สุดในการครอบครอง Bentley Flying Spur Mulliner Hybrid ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 19 ล้านบาท พร้อมการรับประกันแบตเตอรี่ไฮบริดนาน 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) การรับประกันจากโรงงานผู้ผลิตฯ พร้อมตัวเลือกสำหรับแผนต่อระยะเวลาการรับประกันจากโรงงานผู้ผลิต (Bentley Extended Warranty) สูงสุด 4 ปี และผู้ช่วยฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 3 ปีเต็ม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V

เกี่ยวกับเบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด
เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าเบนท์ลีย์ทุกท่านและรถยนต์เบนท์ลีย์ทุกคัน ด้วยทีมวิศวกรที่มีความชำนาญและประสบการณ์สูงนานกว่า 35 ปี โดย เอเอเอสฯ ได้จัดสรรงบประมาณจำนวนมากเพื่อจัดส่งวิศวกรไปฝึกอบรมที่โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส ประเทศอังกฤษ ทุกปี ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของรถยนต์เบนท์ลีย์ทุกท่านตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอสฯ ดูแลทั้งรถและคุณ (AAS Looking After YOU And Your CAR)” และให้ชื่อ AAS เป็น “The Name You Can Trust” มานานกว่า 35 ปี

Picture of AAS Bentley Marketing

AAS Bentley Marketing

Sent Successfully!

Thank you.

We will contact you shortly!