(กรุงเทพฯ 2 กันยายน 2568) วันนี้ ลูกค้าที่เลือกครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์กับเบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย สามารถเลือกออปชันรูปแบบเฉดสีสั่งทำพิเศษแบบ ‘Ombre by Mulliner’ กับรูปแบบการไล่เฉดสีแบบแรเงาที่ไม่เหมือนใคร หนึ่งในผลงานการทำสีที่มีความซับซ้อนและโดดเด่นที่สุดของเบนท์ลีย์ มอเตอร์สที่จะได้รับการรังสรรค์ขึ้นด้วยช่างฝีมือ ณ โรงงานเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เมืองครูว์ ประเทศอังกฤษ โดยการทำสีภายนอกจะถูกรังสรรค์ผ่านสองเฉดสีอย่างพิถีพิถันตลอดความยาวของตัวถัง มอบความโดดเด่นที่คู่กับกับสุดยอดยนตรกรรมเจเนอเรชันล่าสุด ซึ่งตัวเลือกเทคนิคใหม่มีให้เลือก 3 เฉดสีที่คิดค้นขึ้นเป็นพิเศษโดยเบนท์ลีย์ มูลินเนอร์ แผนกออกแบบเฉพาะบุคคลอันเลื่องชื่อของเบนท์ลีย์ มอเตอร์ส


สำหรับการทำสี ‘Ombre by Mulliner’ ตัวรถจะได้รับการพ่นสีที่ตัดกันในส่วนด้านหน้าและด้านหลังก่อน จากนั้นจึงใช้เฉดสีที่ผ่านการผสมสีแบบดั้งเดิมเพื่อลงสีแบบออมเบร (Ombre) เพื่อให้ได้เอฟเฟกต์การไล่สีแบบแรเงา โดยช่างพ่นสีสองคนใช้เวลาประมาณ 56 ชั่วโมงหรือกว่า 1 อาทิตย์ในการลงสีที่ต้องใช้เวลาในการผสมสีให้ถูกต้อง และเนื่องจากการผสมสีทั้ง 2 เฉดสีมีความซับซ้อน เบนท์ลีย์ มูลินเนอร์จึงต้องมีการคัดสรรเฉดสีอย่างพิถีพิถันเพื่อให้เกิดการไล่สีที่สม่ำเสมอและค่อยเป็นค่อยไประหว่าง 2 เฉดสี และแต่ละเฉดสีก็จะมีปฏิกิริยาที่แตกต่างกันไป ดังนั้น ช่างพ่นสีจึงต้องตอบสนองต่อปฏิกิริยานี้ในระหว่างการผสมสี ซึ่งหมายความว่ารถยนต์แต่ละคันก็จะมีความโดดเด่นในแบบเฉพาะตัวและความสมบูรณ์แบบในคราวเดียวกัน
รถยนต์คันแรกที่ผ่านกระบวนการทำสีแบบ ‘Ombre by Mulliner’ คือ Continental GT Speed โฉมใหม่ ซึ่งจัดแสดงในงาน The Quail, A Motorsports Gathering ที่เป็นส่วนหนึ่งของงาน Monterey Car Week รูปลักษณ์ภายนอกอันโดดเด่นของตัวรถไล่จากเฉดสีฟ้า Topaz Blue ในส่วนด้านหน้ารถไปจนถึงเฉดสีน้ำเงิน Windsor Blue ในส่วนด้านหลัง โดยการไล่สีจะเห็นได้ชัดเจนที่สุดบริเวณส่วนกลางของตัวรถที่สีจะไล่ระดับตามมุมของเส้นสายในส่วนท้ายของตัวถัง พร้อมกับล้ออัลลอยด์แบบ 10 ก้านขนาด 22 นิ้วที่เข้ากันกับการไล่เฉดสีด้วยการตกแต่งเฉดสีฟ้า Topaz Blue ที่ล้ออัลลอยด์คู่หน้าและสีน้ำเงิน Windsor Blue ที่ล้ออัลลอยด์คู่หลัง


Mulliner’s Bespoke Studio ยังมอบความสมบูรณ์แบบด้วยการรังสรรค์การตกแต่งภายในห้องโดยสารด้วยวิธีการไล่เฉดสีแบบเดียวกันกับตัวถังภายนอก โดยในส่วนหน้าของห้องโดยสารได้รับการตกแต่งด้วยหนังเฉดสีฟ้า Topaz Blue แบบพิเศษบริเวณเบาะโดยสารคู่หน้า พวงมาลัย และแผงหน้าปัดที่เชื่อมไปยังคอนโซลกลาง และในส่วนของห้องโดยสารด้านหลังได้รับการปรับให้เข้ากับโทนสีเข้มในเฉดสีดำ Beluga พร้อมกับเบาะและประตูห้องโดยสารที่มีการตกแต่งด้วยเฉดสีฟ้า Dragonfly เพื่อเน้นการเดินเส้นด้ายและตะเข็บภายในห้องโดยสาร


เนื่องจากเฉดสีของตัวรถที่มีความโดดเด่น พื้นผิวอื่นๆ ภายในห้องโดยสารจึงได้รับการออกแบบให้สังเกตุได้มากขึ้นด้วยการใช้เฉดสีดำแบบ Satin Beluga บริเวณคอนโซลกลาง แผงหน้าปัด และกาบบันไดที่จะสังเกตุได้เมื่อเปิดประตูเข้าสู่ห้องโดยสาร
ภายในห้องโดยสารยังมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบหมุน (Bentley’s Rotating Display) ระบบเครื่องเสียง Naim for Bentley อันยอดเยี่ยม และการตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบ Dark Chrome Specification ที่เปิดตัวไปในรุ่น Continental GT เจเนอเรชันล่าสุด
ผู้สนใจครอบครองรถยนต์เบนท์ลีย์กับการออกแบบยนตรกรรมในฝันให้มีเอกลักษณ์เฉพาะบุคคลในแบบ ‘Ombre by Mulliner’ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับข้อเสนอพิเศษได้ที่ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V


เกี่ยวกับ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด
เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าเบนท์ลีย์ทุกท่านและรถยนต์เบนท์ลีย์ทุกคันด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่า 38 ปี พร้อมด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือตรวจสอบและวิเคราะห์สำหรับรถยนต์เบนท์ลีย์โดยเฉพาะนำเข้าจากโรงงาน การรับประกันอะไหล่แท้ และบุคลากรที่ผ่านการอบรมอย่างเข้มข้น โดยมี Qualified High Voltage Technician หนึ่งเดียวในประเทศไทยเป็นผู้รับรองงานซ่อมและงานบำรุงรักษารถยนต์ไฮบริดตามมาตรฐานโรงงาน ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของรถยนต์เบนท์ลีย์ทุกท่านตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอสฯ ดูแลทั้งรถและคุณ (AAS Looking After YOU And Your CAR)” และให้ชื่อ AAS เป็น “The Name You Can Trust”