Close

AAS Auto Service Co., Ltd.

Porsche | Bentley | Autoglym | Ulgo | Fenix

Search
Close this search box.

เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เผยด้านมืด Bentayga S เปิดตัว Black Edition ใหม่ กับการใช้โลโก้เบนท์ลีย์สีดำเป็นครั้งแรก

(ครูว์ 9 เมษายน 2567) เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส เปิดตัว Bentayga S Black Edition อัครยนตรกรรมเอสยูวีที่โดดเด่นที่สุดกับการตกแต่งด้วยโลโก้เบนท์ลีย์ในเฉดสีดำเป็นครั้งแรกในรอบ 105 ปี Bentayga S Black Edition ยังมาพร้อมกับสีสันของชุดแต่งรอบคันที่ดูสดใส รายละเอียดสีดำที่ดูดุดัน และเทคโนโลยีแชสซีที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ พร้อมเผยด้านมืดของอัครยนตรกรรมแบบอเนกประสงค์รุ่นพิเศษนี้


ลูกค้าสามารถเลือกสรรเฉดสีเฉพาะได้ถึง 7 สี อันได้แก่ เฉดสีส้ม Mandarin, เฉดสีเหลือง Signal Yellow, เฉดสีน้ำเงิน Klein Blue, เฉดสีแดง Pillar Box Red, เฉดสีเงิน Ice, เฉดสีเขียว Hyper Green และ เฉดสีดำ Beluga โดยแต่ละเฉดสีได้นำเสนอการออกแบบที่สะดุดตาแต่ยังคงเข้ากับการออกออกทั้งภายในและภายนอก พร้อมมอบความคอนทราสต์ให้กับการใช้สีดำบนตัวถังรถ

การตกแต่งภายนอกมีการเน้นการใช้รูปแบบของแถบเลเซอร์กับชุดแต่ง Styling Specification รอบคันบริเวณกันชนหน้าด้านล่างและด้านข้าง พาดผ่านด้านบนของสปอยเลอร์หลัง คาลิเปอร์เบรกยังได้รับการรังสรรค์ขึ้นเพื่อให้เข้ากันกับชุดแต่งรอบคัน พร้อมเพิ่มความโดดเด่นด้วยล้ออัลลอยด์เฉดสีดำขนาด 22 นิ้ว และการตกแต่งด้วยอุปกรณ์เฉดสีดำ-เงารอบคันตามแบบฉบับของรุ่น Bentayga S โดย รุ่น S Black Edition ถือเป็นรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ 105 ปีของเบนท์ลีย์ มอเตอร์สที่ได้นำเอาโลโก้เบนท์ลีย์หรือ Bentley Wings และตัวอักษรคำว่าเบนท์ลีย์ในเฉดสีดำ-เงามาใช้ในการตกแต่ง พร้อมการตกแต่งด้วยโลโก้ ‘Black Edition’ บริเวณเสา D ด้านหลัง


ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตัวเลือกคุณสมบัติใหม่ได้ทำให้รุ่น Bentayga เป็นที่นิยมมากขึ้น ซึ่งสำหรับรูปลักษณ์ภายนอกของ Black Edition ยังคงความสดใสด้วยตัวเลือกการตกแต่งเฉพาะบุคคลที่มาพร้อมกับเฉดสีชุดแต่งรอบคันแบบซาตินใหม่ 7 เฉดสี พร้อมด้วยเฉดสีตัวถังใหม่ และตัวเลือกล้ออัลลอยด์ขนาด 21 นิ้ว 3 แบบใหม่ นอกจากนี้ Black Edition ยังให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้วยเทคโนโลยีแชสซีใหม่ ระบบไฟฟ้าใหม่ และคุณสมบัติใหม่ที่เพิ่มขึ้นรวมถึงกระจังหน้าโฉมใหม่ โดยระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อที่เคยเปิดตัวในรุ่น Bentayga Extended Wheelbase และได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมและความคล่องตัว ในขณะเดียวกันยังสามารถลดวงเลี้ยวลงได้อีกเกือบ 1 เมตรก็ได้รวมอยู่ในคุณสมบัติมาตรฐานของรุ่น Bentayga ‘Azure’ และรุ่น Bentayga ‘S’ V8


สำหรับ Bentayga S Black Edition ใหม่ ทีมออกแบบของเบนท์ลีย์ยังได้รังสรรค์รูปแบบเฉดสีภายในที่เป็นเอกลักษณ์ โดยนำเอาความแตกต่างที่สมบูรณ์แบบระหว่างหนังเฉดสีดำ Beluga และการเน้นเฉดสีที่สดใสเข้ามาไว้ด้วยกัน ซึ่งการเน้นเฉดสีที่โดดเด่นภายนอกตัวรถได้ถูกถ่ายทอดสู่ห้องโดยสารที่รังสรรค์ขึ้นผ่านงานฝีมือ โดยมีการเย็บและตกแต่งหนังแบบคอนทราสต์ พร้อมด้วยการปักโลโก้รูปตัว ‘S’ สีดำบริเวณเบาะโดยสาร

ลวดลายการถักทอบนวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์แบบใหม่มีการนำมาตกแต่งสำหรับแผงหน้าปัด คอนโซลกลาง และข้างห้องโดยสาร โดยลวดลายการทอช่วยเพิ่มมิติความลึกของภาพ 3 มิติให้กับแผงหน้าปัด ทำให้เกิดฉากหลังที่สมบูรณ์แบบสำหรับโลโก้ Black Edition ที่ตกแต่งไว้ใต้พื้นผิวเคลือบแล็คเกอร์เพื่อความเรียบเนียน

ชุดแต่งแบบ Dark Chrome Pack ใหม่ได้นำมาเป็นชุดแต่งแบบมาตรฐานที่จะรังสรรค์รายละเอียดของโลหะภายใน อาทิ ปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ และช่องแอร์บริเวณตรงกลางและด้านข้างให้เป็นเฉดสีดำ-เงา


ด้านระบบความบันเทิงภายในห้องโดยสาร Bentayga S Black Edition มาพร้อมตัวเลือกระบบเสียง 3 แบบที่เริ่มต้นด้วย Bentley Signature Audio และ Bang & Olufsen for Bentley ที่จะยกระดับคุณภาพเสียงขึ้นไปอีกขั้น พร้อมการตกแต่งด้วยตะแกรงลำโพงเรืองแสงที่สวยงาม และตัวเลือกระบบเสียง Naim for Bentley ที่จะมอบคุณภาพเสียงขั้นสุดยอดให้กับอัครยนตรกรรมรุ่นนี้


Bentayga S Black Edition คือ เจ้าของขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินรุ่น V8 เทอร์โบชาร์จคู่ ขนาด 4.0 ลิตรอันโด่งดังของเบนท์ลีย์ พร้อมผสมผสานพละกำลังอันมหาศาลเข้ากับประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องยนต์รุ่นล่าสุดมอบพละกำลังกว่า 550 แรงม้าจากแรงบิด 770 นิวตันเมตร โดยมีอัตราเร่ง 0–100 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง ภายในระยะเวลาเพียง 4.5 วินาทีกับความเร็วสูงสุด 290 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง สำหรับในการเดินทาง 654 กิโลเมตร Bentayga S Black Edition มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่เพียง 296 กรัม ต่อ กิโลเมตรเท่านั้น

สำหรับรุ่น S Hybrid Black Edition มาพร้อมกับพละกำลัง 462 แรงม้าจากเครื่องยนต์เบนซิน TFSI V6 ขนาด 3.0 ลิตรที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 100 กิโลวัตต์ มอบอัตราเร่ง 0–100 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง ภายในระยะเวลา 5.3 วินาทีด้วยความเร็วสูงสุด 254 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง

รุ่น S Black Edition ยังได้รับการพัฒนาในโหมดการขับขี่แต่ละโหมดด้วยระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้อที่จะทำงานร่วมกับระบบ Bentley Dynamic Ride โดยใช้การล็อคการบังคับเลี้ยวล้อหลังสูงสุด +/- 4.8 องศา

Bentley Dynamic Ride ที่ได้รับการติดตั้งเป็นคุณสมบัติมาตรฐานถือเป็นเทคโนโลยีระบบควบคุมการเข้าโค้งแบบแอคทีฟด้วยไฟฟ้าขนาด 48 โวลต์ตัวแรกของโลก โดยระบบสามารถตอบสนองภายใน 0.3 วินาทีด้วยแรงบิดสูงสุด 1,300 นิวตันเมตรเพื่อต้านแรงหมุนด้านข้างในขณะเข้าโค้ง ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจได้ถึงการสัมผัสของยางบนพื้นถนน มอบเสถียรภาพภายในห้องโดยสาร ความสะดวกสบายในการขับขี่ และการควบคุมที่ยอดเยี่ยม

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โทร. 080-925-9999 หรือ 02-261-1050 LINE Official Account: @bentleybangkokaas คลิก https://lin.ee/4JOaZyE8V


เกี่ยวกับ เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด
เบนท์ลีย์ แบงค็อก โดย บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์เบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าเบนท์ลีย์ทุกท่านและรถยนต์เบนท์ลีย์ทุกคันด้วยประสบการณ์อันยาวนานกว่า 37 ปี พร้อมด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือตรวจสอบและวิเคราะห์สำหรับรถยนต์เบนท์ลีย์โดยเฉพาะนำเข้าจากโรงงาน การรับประกันอะไหล่แท้ และบุคลากรที่ผ่านการอบรมอย่างเข้มข้น โดยมี Qualified High Voltage Technician หนึ่งเดียวในประเทศไทยเป็นผู้รับรองงานซ่อมและงานบำรุงรักษารถยนต์ไฮบริดตามมาตรฐานโรงงาน ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของรถยนต์เบนท์ลีย์ทุกท่านตามนโยบายหลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอสฯ ดูแลทั้งรถและคุณ (AAS Looking After YOU And Your CAR)” และให้ชื่อ AAS เป็น “The Name You Can Trust”

Picture of AAS Bentley Marketing

AAS Bentley Marketing

Sent Successfully!

Thank you.

We will contact you shortly!